วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายๆชิ้นร่วมเข้าด้วยกัน คือ

Case
เป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวถึงของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น Case สำหรับ เครื่อง Server Case ในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ Case โลหะ และ Case พลาสติก โดยแบบหลังจะมีราคาที่แพงกว่า เพราะมีป้องกันในส่วนของไฟฟ้ารั่ว


CPU
หรือ  หน่วยประมวลผลกลาง เป็นวงจรอิเลคทรอนิคที่ทำงาน หรือประมวลผล ตามชุดของคำสั่งเครื่องจากซอฟต์แวร์ เปรียบเสมือนเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ในการทำหน้าที่ตัดสินใจหรือคำนวณ จากคำสั่งที่ได้รับมา เช่น การเปรียบเทียบ การกระทำการทางคณิตศาสตร์ ฯลฯ 


MAIN BOARD
เมนบอร์ดเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญรองมาจากซีพียู เมนบอร์ดทำหน้าที่ควบคุม ดูแลและจัดการๆ ทำงานของ อุปกรณ์ชนิดต่างๆ แทบทั้งหมดในเครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ซีพียู ไปจนถึงหน่วยความจำแคช หน่วยความจำหลัก ฮาร์ดดิกส์ ระบบบัส



BIOS
ย่อมาจาก Basic Input/Output System เป็นชื่อโปรแกรมชุดหนึ่งซึ่ง จะควบคมการทำงานของคอมพิวเตอร์ในส่วนที่เกี่ยวกับการนำข้อมูลเข้าไปเก็บและการแสดงผล (หน่วยบันทึก แผงแป้นอักขระ จอภาพฯ) คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเก็บไบออสนี้ไว้ในชิปตัวหนึ่งที่สร้างมาให้อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ( built in ) หรือที่เรียกว่า "รอม" (ROM) เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องจะอ่านคำสั่งในไบออสก่อนเสมอ


Hard Disk
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมที่มีเปลือกนอก เป็นโลหะแข็ง และมีแผงวงจรสำหรับการควบคุมการทำงานประกบอยู่ที่ด้านล่าง พร้อมกับช่องเสียบสายสัญญาณและสายไฟเลี้ยง ส่วนประกอบภายในจะถูกปิดผนึกไว้อย่างมิดชิด โดยจะเป็นแผ่นดิสก์และหัวอ่านที่บอบบางมาก และไม่ค่อยจะทนต่อการกระทบ กระเทือน


MODEM
ย่อมาจากคำ modulator - demodulator หมายถึง อุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อการสื่อสารติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ในระยะไกลโดยผ่านทางสายโทรศัพท์ เป็นตัวกล้ำและแยกสัญญาณแอนะล็อก (analog) และดิจิทัล (digital) ความเร็วในการทำงานของโมเด็มมีตั้งแต่ 1,200, 2,400, 9,600 และ 14,400 การจะใช้โมเด็มนั้น ต้องใช้ซอฟต์แวร์ร่วมด้วย การรับข้อมูลจากระบบเครือข่ายก็ต้องมีโมเด็ม โมเด็มนั้นอาจจะทำติดมาอยู่ภายในตัวเครื่อง หรือนำมาติดเพิ่มภายหลังก็ได้


RAM
ย่อมาจากคำว่า Random-Access Memory เป็นหน่วยความจำของระบบ มีหน้าที่รับข้อมูลเพื่อส่งไปให้ CPU ประมวลผลจะต้องมีไฟเข้า Module ของ RAM ตลอดเวลา ซึ่งจะเป็น chip ที่เป็น IC ตัวเล็กๆ ถูก pack อยู่บนแผงวงจร



Power supply
เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่ออุปกรณ์เกือบทุกตัวในระบบคอมพิวเตอร์ โดยทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจาก 220 โวลต์ เป็น 3.3 โวลต์, 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ ตามแต่ความต้องการของอุปกรณ์นั้นๆ โดยชนิดของพาวเวอร์ซัพพลาย ในคอมพิวเตอร์จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามเคส คือแบบ AT และแบบ ATX


DVD ROM
คืออุปกรณ์ Optical Drive สำหรับอ่านข้อมูลในคอมพิวเตอร์ สามรถอ่านได้ทั้งแผ่น CD-R และ DVD ปัจจุบัน สำหรับ DVD Drive ก็รองรับการอ่าน Disc ขนาดมาตรฐานเช่นเดียวกับ CD-ROM ที่มีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 และ 12 เซนติเมตร


CPU FAN
พัดลม CPU นับเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องเลือกให้ดีเพราะเนื่องจากCPU มีความร้อนสูงการเลือกพัดลมที่ไม่เหมาะกับการ CPU อาจเกิด ความเสียหายต่อ CPU หรือทำให้ระบบคอมฯไม่มีเสถียรภาพ ได้ ปัจจุบัน พัดลม CPU ได้ถูกออกแบบมาเฉพาะกับ CPU แต่ละรุ่น ซึ่งจะมีรูปร่าง และวัสดุที่ใช้ทำต่างกัน มีการนำทองแดงมา ใช้เป็นวัสดุ ในการทำแทน อลูมิเนียม เพื่อช่วยระบายความร้อน ใส่พัดลมที่มีกำลังแรงและมีขนาดใหญ่มีการออกแบบครีบให้มากเพื่อ ช่วยระบายความ ร้อน


VGA Card
มีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณ digital ให้เป็นสัญญาณภาพ โดยมี Chip เป็นตัวหลักในการประมวลการแปลงสัญญาณ ส่วนภาพนั้น CPU เป็นผู้ประมวลผล



Sound Card
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสังเคราะห์เสียงโดย Sound Card จะเป็นได้ทั้ง Input และ Output ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น Input เมื่อนำสัญญาณเสียง ที่ได้จากภายนอกมาประมวลผล และทำหน้าที่เป็น Out Put เมื่อนำข้อมูลที่เก็บในรูปไฟล์ซึ่งมีหลาย Format



โดย น.ส.สุภิญญา ไม้สนธ์
รหัส 5021408202

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

ปัญหาคอมพิวเตอร์ที่พบบ่อย


ปัญหาคอมพิวเตอร์ที่พบบ่อย

ทางผู้ทำได้รวบรวมปัญหาต่าง ๆ ที่พบได้บ่อย ๆ กับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ และนำมาสรุปให้เป็นแนวทางสำหรับ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

- หลังจาก Setup Windows ใหม่แล้วเกิดการค้าง ไม่ยอมทำการ Setup ต่อไป

เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สิ่งหนึ่งที่พบบ่อย ๆ คือการตั้งค่า Virus Warning ใน bios ไว้ทำให้เครื่องไม่สามารถ เขียนข้อมูลทับลงบนส่วนของ boot record ของฮาร์ดดิสก์ได้ ให้ลองแก้ใน bios ตั้งให้เป็น Disable ไว้ก่อน และหลังจากทำการ Setup Windows เสร็จแล้วค่อยตั้งเป็น Enable ใหม่

- หลังจาก Setup Windows จะขึ้นข้อความ Windows Protection Error

ที่พบบ่อย ๆ มากคือปัญหาของ RAM อาจจะเป็นเฉพาะช่วงที่ทำการ Setup Windows เท่านั้น (โดยที่ปกติก่อน Setup Windows จะใช้งานได้ ไม่เป็นอะไร) ให้ทดลองหา RAM มาเปลี่ยนใหม่ดู หรือหากเป็น SDRAM ให้ทดลองตั้งค่าใน bios ค่าของ CAS จากที่ตั้งเป็น 2 ลองตั้งเป็น 3 ดู อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง

- ใช้เครื่องได้สักพัก มักจะแฮงค์ พอปิดเครื่องสักครู่แล้วเปิดใหม่ ก็ใช้งานต่อได้อีกสักพักแล้วก็แฮงค์อีก

อาจจะเกิดจากความร้อนสูงเกินไป อย่างแรกให้ตรวจสอบพัดลมต่าง ๆ ว่าทำงานปกติดีหรือเปล่า หากเครื่องทำ Over Clock อยู่ด้วยก็ทดลองลดความเร็วลงมา ใช้แบบงานปกติดูก่อนว่ายังเป็นปัญหาอยู่อีกหรือเปล่า ถ้าใน bios มีระบบดูความร้อนของ CPU หรือ Main Board อยู่ด้วยให้สังเกตค่าของ อุณหภูมิ ว่าสูงเกินไปหรือเปล่า ทั้งนี้อาจจะทำการเพิ่มการติดตั้งหรือเปลี่ยนพัดลมของ CPU ช่วยด้วยก็ดี

- ซื้อฮาร์ดดิสก์มาขนาดใหญ่ ๆ แต่หลังจากทำการ Format แล้วเครื่องมองเห็นแค่ 2G

อย่างแรกให้ดูก่อนเลยว่า ใช้ระบบ FAT16 หรือ FAT32 ถ้าหากเป็น FAT16 จะมองเห็นได้สูงสุดแค่ 2G ต่อ 1 Partition เท่านั้น ต้องใช้แบบ FAT32 ครับ วิธีการคือใช้ FDISK ของแผ่น Startup Disk WIN98 มาทำ FDISK

- การทำงานของฮาร์ดไดร์ฟช้าลง

อาจเกิดจากไฟล์ข้อมูลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ อาจอยู่กระจัดกระจาย ให้ตรวจสอบส่วนของข้อมูลที่หายไปโดยการรันโปรแกรม Disk Defragmenter เพื่อที่จะรันโปรแกรม Disk Defragmenter จากเดสก์ทอปของวินโดวส์ ให้ คลิกที่ปุ่ม Start แล้วชี้ไปที่ Programs จากนั้นชี้ไปที่ Accessories และชี้ไปที่ System Tools ท้ายสุดให้คลิกที่ Disk Defragmenter

- เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ได้

การใช้โมดูลหน่วยความจำอื่นอาจมีผลทำให้การเริ่มระบบยากขึ้นเมื่อคุณอัปเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณจะต้องใช้หน่วยความจำ EDO 60 นาโนวินาที

- เมาส์ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว

คุณอาจไม่ได้ติดตั้งไดร์ฟเวอร์ของเมาส์ หรือ ติดตั้งไดร์ฟเวอร์ที่ไม่ถูกต้อง แก้ปัญหาโดยตรวจดูให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งไดร์ฟเวอร์ของเมาส์ที่ถูกต้อง จากเดสก์ทอปของวินโดวส์ให้คลิกที่ปุ่ม Start จากนั้น ชี้ไปที่ Settings แล้วคลิกที่ Control Panel เมื่อเห็นหน้าต่าง Control Panel ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Mouse แล้วคลิกที่แท็บ General

- จอภาพร้อนเกินไป

อาจเกิดจากพื้นที่สำหรับระบายอากาศไม่เพียงพอให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แก้ปัญหาโดยเว้นพื้นที่ให้มีช่องระบายอากาศอย่างน้อย 3 นิ้ว ตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มี อะไรปิดอยู่ด้านบนของจอภาพที่ขัดขวางการหมุนเวียนของอากาศ


โดย กุลทิศา เชี่ยวอนันตวานิช 5021408234



http://leo2003th.tripod.com/108.html

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

พรบ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550

ความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
มีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 50  
มาตราการด้านความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

มาตรา 5 ผู้ใดเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 6 ผู้ใดนำมาตรการการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้นั้นเกิดความเสียหาย มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่น โดยข้อมูลนั้นมีมาตรการป้องกันการเข้าถึง มีโทษคือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มารตา 8 ผู้ใดดักรับข้อมูลของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลนั้นเป็นความลับ มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 9 ผู้ใดแก้ไข เปลี่ยนแปลง ทำลายข้อมูลของผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 10 ผู้ใดรบกวน ขัดขวาง ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 11 ผู้ใดส่งข้อมูลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้อื่น โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของข้อมูล อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น มีโทษคือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

มาตรา 12 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 แล้ว
12.1 ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
12.2 ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือบริการสาธารณะ มีโทษคือ จำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-300,000 บาท และหากกระทำความผิดตาม 12.2 เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษคือ จำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี


มาตรา 13 ผู้ใดจำหน่าย หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 5,6,7,8,9,10,11 มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 14 การปลอมแปลงข้อมูล การก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย หรือเผยแพร่ข้อมูลลามก มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 15 ผู้ให้บริการใดสนับสนุน หรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในการควบคุมของตน มีโทษเช่นเดียวกับมาตรา 14
มาตรา 16 ผู้ใดนำข้อมูล หรือภาพของผู้อื่นมาตัดต่อ ดัดแปลงด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม โดยจะทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีโทษคือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 17 ผู้ใดกระทำความผิดตาม พรบ.นี้นอกราชอาณาจักร และ
17.1 ผู้กระทำผิดเป็นคนไทย ทางรัฐบาลของประเทศที่เสียหายต้องร้องขอให้ลงโทษ หรือ
17.2 ผู้กระทำผิดเป็นคนต่างด้าว ทางรัฐบาลไทยต้องร้องขอให้ลงโทษและต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร

โดย อนุสรา ทวีศรี 5021408231